วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

หัด ~ เปลี่ยน ~ แปลง

     
...............ในวัยอนุบาล....หลังจากที่น้ำหวานสามารถวาดรูปคนได้คล่องแคล่วแล้ว........แนนซี่แนะนำให้ลองวาดรูปอื่นๆ  ในตอนแรกน้ำหวานไม่ยอมวาดอย่างอื่นๆ..ยังคงวาดแต่รูปพ่อกับแม่ในแบบต่างๆ...แนนซี่พยายามหาหนังสือนิทานที่มีภาพการ์ตูนน่ารัก..มาให้หัดอ่าน...พร้อมทั้งชี้ชวนให้หัดสังเกตลักษณะภาพการ์ตูนเหล่านั้น (ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้ง 2 ตัว...ทั้งฝึกสะกดคำและฝึกวาดรูป...นอกจากแนนซี่จะเป็นคุณครูศิลปะจำเป็นแล้ว..ยังได้เป็นคุณครูภาษาไทยโดยไม่รู้ตัวด้วย..ไม่ได้รับค่าจ้าง...แต่ได้ความภาคภูมิใจและความรักจากลูกเป็นสิ่งตอบแทน..ครูแนนซี่ก็หายเหนื่อย ^_^ )
              น้ำหวาน เริ่มชอบการ์ตูนพี่หมีกับพี่กระต่ายมากเป็นพิเศษ....พยายามวาดพี่หมี พี่กระต่ายอยู่หลายแผ่น แต่ก็ยังไม่สวย......นักเรียนตัวน้อยเริ่มหมดความอดทน จึงหงุดหงิดและโมโห.....แนนซี่ต้องปลอบว่า 
          "หนูรู้มั๊ย... กว่าที่่แม่จะวาดรูปเก่ง...แม่ก็ต้องฝึกอยู่นาน.หนูเพิ่งเริ่มฝึกได้แป๊บเดียวเอง...และที่สำคัญต้องใจเย็นๆด้วยนะจ๊ะ ....เวลาเราหงุดหงิด รูปเราจะออกมาไม่ค่อยสวย...แล้วหน้าเราก็จะไม่สวยด้วย"
          "พี่กระต่ายไม่อยากอยู่กับน้องหงุดหงิดค่ะ.".........แนนซี่พยายามทำเสียงเป็นพีกระต่าย
            .............น้ำหวาน ยิ้มออกมาได้.............
           "หนูจะลองวาดใหม่....หนูอยากมีพี่กระต่ายมาอยู่ด้วย."
            .... น้ำหวาน....ใจเย็นขึ้น........วาดอยู่อีกหลายแผ่น เริ่มได้พี่กระต่าย กับพี่หมีที่ถูกใจ........

            "แม่.....หนูหิวแล้ว"...............แนนซี่ยิ้มให้..แล้วชวนลูกเข้าบ้าน............
           "เหนื่อยแล้วสิลูก ..งั้น ขอลาพี่หมี..พี่กระต่ายไปกินข้าวก่อนนะคะ"
           
          "..วันนี้ พอแค่นี้ก่อน....วันหลังแม่จะพาหนูทำนิทานของตัวเองด้วย."
          " เย๊..เย๊ "....เสียงดีใจของน้ำหวาน  ..." หนูรักแม่ที่สุดเลย " ............^_^  

          --------------------------------------------------------------------------------------------------------
       
           ..................................................................................................................
           ในบางครั้ง...นักเรียนตัวน้อย...ยังไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง...ว่าตัวเองจะทำได้..อาจหงุดหงิดและอารมณ์เสีย...คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็น และอย่าเผลอโมโหไปพร้อมลูก... และสำคัญที่สุด คือ ต้องให้กำลังใจ..ทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะ ^_^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น